พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เข้าเยี่ยมชมและติดตามการดำเนินการของศูนย์รับร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยภายหลังการเยี่ยมชม ได้ระบุว่า เกี่ยวกับการจัดตั้งระบบรับเรื่องร้องเรียน 74 ศูนย์ทั่วประเทศ เป็นไปตามคำสั่งของ คสช. โดยเป็นการตั้งศูนย์เพื่อรับเรื่องราวร้องเรียนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหลัก แต่ก็ให้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือนร้องของประชาชนได้ โดยวัตถุประสงค์หลังของ คสช. ในการเปิดศูนย์ดังกล่าวนั้น เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งจากการเยี่ยมชมถือได้ผลน่าพอใจ มีการจัดระบบที่ครบถ้วน สมบูรณ์ เบื้องต้นปัจจุบันได้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้ว 417 เรื่อง ส่วนใหญ่จะร้องเรียนเข้ามาผ่านทางโทรศัพย์ และมีการเข้ามายื่นหรือส่งเอกสารเข้ามา12เรื่อง รวมถึงในส่วนของกองทัพบกนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเผื่อตรวจสอบความเชื่อถือของข้อมูลการร้องเรียน ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกร้องเรียนนั้นก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำการตรวจสอบ ซึ่งในส่วนของข้อกังวลของผู้ร้องเรียนที่จัให้มีการรักษาความลับนั้นยืนยันว่าจะให้มีการรักษาความลับของข้อมูลเป็นอย่างดี
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณี การดำเนินการกับพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์แรงงานโรฮินจาชาวเมียนมาและบังกลาเทศ ว่า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย ส่วนจะมีการขอคืนยศหรือถอดยศหลังมีคำพิพากษาหรือไม่นั้น ไม่รู้ แต่ได้ให้มีการพักราชการไปก่อนแล้ว
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน ซึ่งขอให้แยกแยะว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่เกี่ยวกับกองทัพ พร้อมเชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก เผยถึงกรณีมีกลุ่มนักวิชาการออกมาเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คืนเสรีภาพในการแสดงออกทางวิชาการต่างๆ โดยระบุว่า ปัจจุบัน คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความต้องการที่จะให้สถานการณ์ของประเทศเป็นไปอย่างสงบปราศจากความขัดแย้ง ซึ่งการให้เสรีภาพต่างๆ ก็สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่กำหนดซึ่งยังไม่อนุญาตให้ข้องเกี่ยวกับเรื่องการเมือง พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบันเป็นหลัก รวมถึงความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองหรือความเคลื่อนไหวด้านการเมืองต่างๆ
